ประสบการณ์ลงเรียนกับ Udacity

ประสบการณ์ลงเรียนกับ Udacity

เนื่องจากได้มีโอกาสลงเรียนกับ Udacity เวปคอร์สเรียนออนไลด์ของอเมริกา มา 2 คอร์สแล้ว วันนี้เลยถือโอกาสมาแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังเผื่อว่า คนที่กำลังตัดสินใจอยู่จะได้นำไปใช้ประกอบการ์ตัดสินใจได้

เริ่มแรกจำได้ว่าช่วงนั้นพอจะมีเงินอยู่ก้อนนึง ซึ่งมาพร้อมกับที่ตัวเองต้องการหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องของ Deep Learning จำได้เลยว่าตอนนั้นสองจิตสองใจ ว่าจะเอาเงินก้อนนั้นมาเรียนดีหรือไม่แล้วถ้าเรียนจะเรียนที่ไหนดี หรือจะเรียนเองเหมือนทุกทีและเก็บเงินไว้ใช้อย่างอื่น หลังจากเรียนไปได้ซักพักนึงพบว่า Deep Learning มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่ละเวปแต่ละเพจก็สอนกันอย่างละนิดอย่างละหน่อย พอเข้าใจได้ แต่จะเอามาใช้ได้คงยาก สุดท้ายเลยเลือกที่จะเรียน

แน่นอนหละว่ามีเวปหลักๆที่เรียนได้อยู่ 2 - 3 เวป ณ ตอนนั้นก็จะมี udemy กับ coursera ซึ่งราคาไม่สูงนัก ส่วน Udacity นี่แพงกระโดดเลย ด้วยความที่ตั้งใจจะเรียนละ เลยขอลองที่แพงๆไปเลยซักครั้ง จะได้รู้ว่าต่างกันอย่างไรบ้าง

ส่วนตัวแล้วประทับใจกับประสบการณ์ที่ได้ลงเรียนกับ Udacity มาก เนื้อหาที่เรียนไม่ได้หนักมาก แต่ครอบคลุมพอให้สามารถนำไปต่อยอดศึกษาในหัวข้อที่สนใจต่อได้ ส่วนตัวเลยให้ความสำคัญไปในเรื่องของ Image ซึ่งเป็นหัวข้อที่ใหญ่และมีอะไรให้ศึกษาต่ออีกมาก แน่นอนว่าถ้ามีเวลาคงศึกษาเรื่องอื่นต่อด้วยแหละ (ส่วนตัวแอบสนใจ reinforcement learning)

จุดเด่นมากๆของ Udacity ที่ต้องกล่าวถึงเลยก็คือ การพยายามปรับพฤติกรรมของผู้เรียน อันนี้ยอมรับว่าแปลกมากเพราะเราเรียนที่ประเทศไทยในหลักสูตรปกติ ไม่เคยเจอแบบนี้ หรือแม้แต่การเรียน Online กับ Udemy ที่เคยเรียนก่อนหน้านี้ก็แค่สอนๆบรรยายๆไป ที่ Udacity นั้นจะเลือก Paper 2 - 3 Paper มาให้อ่าน ประกอบการทำ Project พูดง่ายๆคือ ตัว Project เองก็คล้ายๆ Paper อยู่แล้ว ยัง Guide ให้ไปอ่าน Paper เองเพื่อมาทำ Project ด้วย รวมถึงระหว่างที่เรียน ก็จะแทรก Paper ให้เป็นระยะๆ ทั้งที่ถ้าสนใจให้ไปศึกษาต่อเอง ยอมรับตรงๆว่าแรกๆกลัวการอ่าน Paper มาก ทั้งขี้เกียจ ทั้งรู้สึกว่ายาวยืดยาด อ่านแล้วจะหลับ ทั้งรู้สึกว่าเสียเวลา กว่าจะจบหมดไปเกือบวันนึงเต็มๆ อีกทั้งยังต้องมาพยายามตีความต่ออีก เพราะใน Paper ส่วนมากอ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายก็เข้าใจจนได้ ทำให้รู้ว่า เราก็อ่านได้หนิหว่า หลังจากนั้นเลยมีโอกาสศึกษา Paper อื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งคงมาเล่าให้ฟังกันต่อไป

นอกจากนี้ Udacity ยังมีบทเรียนเสริมโดยมุ่งเน้นไปที่การเตรียมตัวผู้เรียนเพื่อการสัมภาษณ์และหางานใหม่ด้วย เหมือนว่าตั้งใจวัด KPI ที่รายได้ก่อนและหลังเรียน กันเลยทีเดียว ตอบโจทย์คนที่ต้องการอัพเงินเดือนเป็นอย่างมาก

ส่วนตัวค่อนข้างแนะนำ Udacity สำหรับการเรียน Course ยากๆ ที่หาคนสอนได้ยาก แต่แน่นอนว่า ราคาที่แพงมาก และที่สำคัญขึ้นราคาโหดมากทุกปีด้วย!! เห็นราคา ณ ปัจจุบันแล้ว จะเป็นลมเอา ก็อาจจะทำให้ตัดสินใจเรียนได้ยากอยู่ อย่างไรก็ตัดสินใจกันดีๆ หากลงเรียนแล้ว ก็คงต้องตั้งใจเรียนตั้งใจทำการบ้าน เพื่อให้ได้ความรู้ทุกเม็ดคุ้มกับเงินที่จ่ายไป

Related Posts: